ระวัง ! ลมแดด โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) อันตรายในช่วงหน้าร้อน
ช่วงนี้อากาศร้อนจัดกลับมาทำหน้าที่ประจำอีกครั้ง
หลังพักร้อนสั้น ๆ ให้ความเย็นเข้ามาทำงานแทนได้แป๊บเดียว
ชนิดที่ยังไม่ทันหนาวก็โบกมือบ๊ายบายกันเสียแล้ว
อากาศแบบนี้กระทบต่อการใช้ชีวิตของคนทำงานไม่น้อย
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางความร้อนอบอ้าว
รวมถึงคนที่ชอบออกกำลังกายหนัก ไม่ใช่แค่ทำให้เสื้อผ้าเปียกแฉะไปด้วยเหงื่อที่ทะลักมากกว่าปกติ
หรือผิวจะถูกเผาจนเปลี่ยนเป็นสี แต่ความร้อนน่ากลัวกว่านั้นเยอะ
ถึงขนาดที่อาจคร่าชีวิตได้แบบไม่ทันตั้งตัว - คาสิโนออนไลน์
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับโรค "ฮีทสโตรก (Heat Stroke)" หรือ
"ลมแดด" มาบ้างแล้ว แต่รู้ไหมว่า โรคนี้ใกล้ตัวและอันตรายกว่าที่คิด
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤต โรงพยาบาลพระรามเก้า
อธิบายว่า "ฮีทสโตรก"
เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวกับความร้อนที่เกิดขึ้นได้
เนื่องจากการควบคุมอุณหภูมิเสียไปจนทำให้อุณหภูมิแกนสูงขึ้นและเกิดความผิดปกติทางระบบประสาท
"โดยปกติแล้วร่างกายจะมีการควบคุมอุณหภูมิแกน โดยผ่านสมดุลระหว่าง
การสร้างความร้อน จากเมแทบอลิซึมหรือระบบเผาผลาญในร่างกาย
และจากการดูดซับความร้อนจากสิ่งแวดล้อมกับ การกำจัดความร้อนออกจากร่างกาย
ผ่านทางการระเหยเป็นเหงื่อหรือลมหายใจ การแผ่รังสี การนำความร้อน และการพาความร้อน
ในภาวะปกติทั้งสองด้านต้องทำงานกันอย่างสมดุลเพื่อกำจัดความร้อนก่อนจะถึงจุดที่เป็นอันตราย
แต่เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จนอุณหภูมิแกนสูงเกิน 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป เซลล์และอวัยวะต่างๆ
จะสูญเสียการทำงานจนเกิดความผิดปกติรวมทั้งระบบประสาทส่วนกลาง
ก่อให้เกิดอาการสับสน กระวนกระวาย ซึม ชัก ซึ่งเป็นอันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้เลย
และจากสถิติอัตราการเสียชีวิตจากฮีทสโตรก ก็ค่อนข้างสูงทีเดียว"
ที่ผ่านมามีข่าวทหารเกณฑ์หรือนักกีฬาเป็น
ฮีทสโตรก กันบ่อย ๆ แต่ที่จริงแล้วคนทั่วไปอย่างเรา ๆ ก็มีโอกาสเป็นได้เหมือนกัน
โดยเฉพาะคนแก่ เด็กเล็ก คนอ้วน และคนที่อยู่ในภาวะร่างกายขาดน้ำ
รวมถึงคนวัยทำงานที่ชอบออกกำลังกายหักโหมเกินไป
ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ยิ่งช่วงหลังมานี้
ผู้คนเริ่มหันมาสนใจการออกกำลังกายมากขึ้น ทั้งเข้าฟิตเนส ออกกำลังกายกลางแจ้ง
ไปร่วมงานวิ่ง ฯลฯ ยิ่งต้องระวังตัว เพราะในระหว่างออกกำลัง
ร่างกายเราจะมีการสร้างความร้อนจากกระบวนการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้น
และหากไปอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงโดยเฉพาะร้อนชื้นด้วยแล้ว
ระบบกำจัดความร้อนของร่างกายอาจจะทำงานไม่ทันจนทำให้เกิดอาการได้
"วิธีสังเกตว่าลมแดดกำลังถามหาแล้วหรือยัง ดูได้จากอาการเตือนเบื้องต้น
เช่น เป็นตะคริว รู้สึกหน้ามืด วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม หรือเริ่มเหนื่อย อ่อนเพลีย
ใจสั่น หากมีอาการเหล่านี้แล้วไม่รีบพัก
สุดท้ายอาจจะกลายเป็นฮีทสโตรก
แต่บางครั้งโรคนี้ก็มาหาแบบทันทีทันใดไม่ทันตั้งตัว
ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนดีที่สุดด้วยวิธีง่าย ๆ ตรงไปตรงมา คือ
ในเมื่อสาเหตุมาจากความร้อนก็ต้องหลีกเลี่ยงความร้อน พยายามอย่าให้ร่างกายขาดน้ำ
และไม่หักโหมหรือฝืนร่างกายจนเกินไป แต่หากบังเอิญเห็นใครมีอาการของโรคฮีทสโตรก
ให้รีบปฏิบัติดังนี้ สิ่งแรกคือ พาหลบไปอยู่ในที่ร่มหรือที่เย็นและมีอากาศถ่ายเทสะดวก, หาพัดลมมาเป่าเพื่อช่วยในการระบายความร้อนออกจากร่างกาย, ถอดเสื้อแล้วเช็ดตัวด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ
เพื่อลดอุณหภูมิ, นำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด"
ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤต ให้คำแนะนำ
วิธีการป้องกัน
– หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแดดติดต่อกันเป็นเวลานาน
ควรเลือกออกในช่วงเช้าหรือเย็น
– ดื่มน้ำให้เพียงพอ
งดการดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนออกกำลังกาย
– งดรับประทานผลไม้ร้อน
หากต้องออกแดดนานๆ
การปฐมพยาบาล
เมื่อพบผู้ป่วยที่เป็นโรคลมแดด
– นำผู้ป่วยเข้าในที่ร่ม
นอนยกเท้าสูง ให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก
– ปลดกระดมเสื้อให้หายใจได้คล่อง
– เช็ดตัวผู้ป่วยด้วยผ้าชุบน้ำเย็น
หรือประคบด้วยน้ำแข็งตามซอกคอ รักแร้ ศีรษะ เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลง
– นำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น